Friday, October 21, 2005

งานอดิเรกและการไม่อัพบล๊อก

เนื่องด้วยกระผมได้ห่างหายจากการเขียนบล๊อกไปนานจนเป็นที่น่าสังเกต ทำให้ผมกลับมาเขียนอีกครั้งในวันนี้ เหตุผลที่ห่างหายไปก็คงจะเป็นเพราะว่าเรียนหนักอีกตามเคย แต่ผมก็มีอีกเหตุผลนึงครับ นั่นก็คือ ตั้งแต่ใช้ชีวิตเรียนหนังสือวิชาเศรษฐศาสตร์อย่างเจาะลึกหนักหน่วงอยู่ที่เมืองสงบและเรียบง่ายอย่างเมือง Chapel Hill นี้ โลกกว้างที่เคยได้พบได้ประสบก็ค่อยๆแคบลงวันแล้ววันเล่า และรอจนกระทั่งวันหนึ่งผมจะกลายเป็น specialist ไปอย่างสมบูรณ์

ยังหรอกครับ วันนั้นคงยังไม่มา แต่ถึงกระนั้น ผมก็ได้เตรียมการป้องกันเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย (ไม่ถึงขนาดนั้น) เนื่องด้วยสภาพเพื่อนฝูงร่วมชั้นที่มีคนจีนอยู่มาก และด้วยผมรู้สึกว่าคนไทยกับคนจีนเข้ากันได้ง่ายมาก (中泰一家亲)และเนื่องจากการเรียนหลักสูตรปริญญาเอกก็หนักเอาการ ทำให้งานอดิเรกของผมจากการค้นคว้าหาความรู้เรื่องทั่วไปแบบจับฉ่าย กลายมาเป็นการอ่านภาษาจีนไปซะอย่างงั้น ยิ่งเรียนเครียดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีความกระตือรือร้นในการอ่านภาษาจีนมากขึ้นเท่านั้น (ความรู้สึกเหมือนอยู่ตอนมัธยมยังไงอย่างงั้น)

และด้วยเหตุที่ว่า ผมไม่ได้อยู่เมืองจีน แต่อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเรียนถึงอเมริกา ทำให้ผมรู้สึกตะขิดตะขวงใจอยู่ทุกครั้งที่อ่านภาษาจีนว่า ทำไมเราไม่เอาเวลาไปพัฒนาภาษาอังกฤษให้มันดีกว่านี้

แต่สุดท้ายเราก็ห้ามใจตัวเองไว้ไม่พ้นหรอกครับ

แต่ ณ โอกาสนี้ ผมคงจะไม่พล่ามมากว่า ภาษาจีนมีบทบาทมากขึ้นเพียงไรในเวทีการเมือง เศรษฐกิจระหว่างประเทศ และยิ่งประเทศไทยกับประเทศจีนมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นแบบไม่เคยปรากฏมาก่อนแบบนี้ด้วยแล้ว ท่านผู้อ่านก็คงจะทราบดีถึงความสำคัญของภาษาจีนอยู่แล้ว

นอกจากนี้ผมยังคิดว่าการเรียนภาษาเป็นการเปิดโลกทัศน์ที่ดีของเราที่ดีที่สุด นอกจากจะสามารถคุยกับเจ้าของภาษาได้อย่างสนิทใจมากยิ่งขึ้น เรายังสามารถรับรู้ข้อมูลต่างๆผ่านสื่อของภาษานั้นได้อีกด้วย

แต่คำถามก็มีต่อไปว่า ทำไมไม่เอาภาษาอังกฤษอย่างเดียว คำตอบก็คือภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาเดียวที่มีบทบาทอยู่ในเวลาโลกตอนนี้ และการเรียนภาษานั้น ผมเชื่อว่ามันคงต้องมีจุดขีดสุดซักวันหนึ่ง คือเป็นวันที่เรารู้สึกว่าสิ่งที่เราเริ่มเรียนไปนั้นเริ่มห่างไกลกับชีวิตประจำวันของเราไปทุกทีๆ จนกระทั่งเราอยากไปหาความท้าทายใหม่ๆ

นอกจากนี้ การอ่านหนังสือภาษาเป็นงานอดิเรกควบคู่ไปกับการเรียนเศรษฐศาสตร์ที่เน้นคณิตศาสตร์ก็ดูจะเป็น perfect combination เลยทีเดียว ที่สามารถทำให้ชีวิตเราสมดุลได้เป็นอย่างดี คือไม่ห่างเหินจากโลกแห่งความเป็นจริงมากเกินไปนัก ในขณะที่ก็ได้เรียนรู้เทคนิคการวิเคราะห์ปัญหาต่างๆ ผ่านทางคณิตศาสตร์

และนี่คืองานอดิเรกของผมและข้ออ้างของการไม่ค่อยอัพบล๊อกตอนนี้ครับ
ปล:ยังไงก็จะหาเวลาเขียนบล๊อกอยู่นะครับ อย่าพึ่งทิ้งกันไปนะ ฮ่าฮ่า