ความรักของไอ้หนุ่มรถไฟ
ทันทีที่รถไฟสายนัมโบคุแล่นเทียบชานชลาสถานีรถไฟอะกิฮะบะระ ศูนย์รวมสินค้าอิเล็กโทรนิกส์กลางกรุงโตเกียว ไอ้หนุ่มรถไฟขี้อายคนหนึ่งก็ได้ก้าวเท้าขึ้นรถเพื่อจะกลับบ้าน โดยที่เขาไม่ได้รู้ตัวเลยว่า เรื่องที่จะเกิดขึ้นในรถไฟขบวนนี้และในตู้รถไฟนี้จะเปลี่ยนแปลงชีวิต(รัก)เขาไปทั้งชีวิต
หลังจากที่รถไฟขบวนนี้แล่นออกจากสถานี ไอ้หนุ่มรถไฟคนนี้ก็เหลือบมองเห็นข้างๆเขานั้นคือหญิงสาวน่ารัก ท่าทางใจดีนั่งอ่านหนังสืออยู่ เขารู้สึกประทับใจในบุคลิกภาพและท่าทางใจดีของผู้หญิงคนนี้ ก็เหมือนเราๆท่านๆที่เห็นคนไหนสวยคนไหนหล่อมีบุคลิกที่น่าประทับใจ ก็แอบรู้สึกนิยมชมชอบเขาคนนั้น
"เฮ้ย มึงมานั่งอะไรที่ของกู" คุณลุงที่ท่าทางเมาได้ที่พูดก่อกวนผู้โดยสารคุณป้ากลุ่มหนึ่งที่กำลังเม้ากันอย่างถึงพริกถึงขิง ไอ้หนุ่มรถไฟนั่งข้างๆคุณป้ากลุ่มนี้แหละ เขาก็รู้สึกกลัวและอาย ไม่รู้จะช่วยคุณป้ากลุ่มนี้จากคุณลุงขี้เมาคนนี้ได้อย่างไร แต่เมื่อคุณลุงไม่มีทีท่าที่จะยอมเลิกก่อกวน ไอ้หนุ่มคนนี้ก็รวบรวมความกล้าสุดชีวิต ตะโกนว่า "หยุดเดี๋ยวนี้นะ" ทุกคนในห้องโดยสารตกใจ ไม่นึกว่าเด็กผู้ชายท่าทางเขียมอายคนนี้จะกล้าตะโกนเช่นนั้น
คุณลุงขี้เมาเห็นดังนั้นก็โมโหขึ้นไปอีก พร้อมเหวี่ยงหมัดหวังจะต่อยไอ้หนุ่มรถไฟให้รู้สำนึกแก่ความโอหัง
แต่ด้วยความเมา หมัดนั้นหาได้มุ่งไปยังเป้าไม่ ไอ้หนุ่มรถไฟหลบหมดได้อย่างง่ายดาย หมัดนั้นได้แฉลบไปโดนหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ จนเธอเสียหลักล้มลงจากที่นั่ง ไอ้หนุ่มรถไฟเห็นดังนั้นก็รู้สึกฉุนขึ้นมาเหลือกำลัง ตรงเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับตาลุงคนนั้น จนเจ้าหน้าที่รถไฟร่างกายกำยำมาถึง ก็รวบตาลุงขี้เมาคนนั้นไว้ได้ ไอ้หนุ่มรถไฟที่รู้สึกกลัวและเหนื่อยก็นั่งหอบอยู่ข้างหญิงสาวคนนั้นนั่นเอง
แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ได้สร้างความประทับใจให้กับหญิงสาวและคุณป้ากลุ่มนั้นมาก และเหตุการณ์นี้เองที่ได้นำให้หญิงชายคู่นี้มาเจอกัน แต่น่าเสียดายที่แทนที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองจะเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างน่าประทับใจ ไอ้หนุ่มรถไฟที่พึ่งต่อสู้กับลุงขี้เมาอย่างกล้าหาญกลับไม่มีความกล้าเพียงพอที่จะตอบรับคำขอบคุณและคุยกับหญิงสาวคนนั้น หลังจากนั้นทั้งสองก็ไม่ได้สนทนาอะไรกันอีกเลย ไอ้หนุ่มรถไฟรู้สึกเสียดายโอกาสและพยายามรวบรวมความกล้าเพื่อที่จะคุยกับหญิงสาวคนนั้น แต่เขาก็ทำไม่สำเร็จ
เหตุกาณ์เหมือนจะจบลง แต่คุณป้ากลุ่มนั้นและหญิงสาวคนนั้นได้ขอเบอรโทรศัพท์และที่อยู่ของไอ้หนุ่มรถไฟเพื่อที่จะส่งของขวัญขอบคุณไปให้ หลังจากแยกทางกันแล้ว ไอ้หนุ่มรถไฟถึงฉุดคิดได้ว่า "ทำไมกูไม่ขอเบอร์ผู้หญิงคนนั้นมาบ้างวะ"
สองวันถัดมามีพัสดุถูกส่งมาถึงบ้านของไอ้หนุ่มรถไฟ จ่าหน้าว่ามาจากหญิงสาวคนนั้น ในพัสดุนั้นมีถ้วยกาแฟราคาแพง บ่งบอกถึงฐานะของผู้ส่งได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งนั้นไม่สำคัญเท่ากับที่จ่าหน้ากล่องพัสดุมีเบอร์โทรศัพท์ของหญิงสาวคนนั้นติดอยู่เพื่อให้บุรุษไปรษณีย์ติดด่อกลับในกรณีที่พัสดุถูกส่งไม่ถึงที่หมาย
ไอ้หนุ่มรถไฟขี้อายนั้นเมื่อทราบเบอร์ของหญิงสาวคนนั้นแล้วกลับรู้สึกว่าตนไม่มีน้ำยา(ความสามารถ)เพียงพอที่จะตัดสินใจว่าควรจะโทรศัพท์ไปหาเธอคนนั้นเพื่อแสดงความขอบคุณดีมั้ยและถ้าโทร จะพูดอย่างไร โชคดีที่เขาได้อาศัยอินเตอร์เน็ตแช็ตกับกลุ่มคนที่เขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน และกลุ่มคนนี้เองที่ได้เป็นเพื่อน คอยให้กำลังใจ คำปรึกษาตลอดช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้น สมหวัง ผิดหวังของไอ้หนุ่มรถไฟคนนี้
เรื่องราวของไอ้หนุ่มรถไฟที่ยอมทุ่มทุกอย่างเพื่อหญิงสาวคนนั้นแต่ไม่รู้แม้กระทั่งวิธีการชวนผู้หญิงออกเดทจะเป็นอย่างไร ไอ้หนุ่มรถไฟจะประสบความสำเร็จในความรักหรือไม่ คงต้องตามหาอ่านกันเอาเองนะครับในการ์ตูนเรื่องไอ้หนุ่มรถไฟ(ผมแปลเอง)หรือชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า densha no otoko
ผมเองเป็นคนที่ไม่ค่อยอ่านการ์ตูนมากนัก แต่เมื่อก่อนกลับจากญี่ปุ่นหนึ่งวันผมก็ลองซื้อการ์ตูนเล่มนี้อ่านดูโดยคิดว่าลองอ่านหน้าปกแล้วน่าจะเป็นเรื่องคล้ายๆกับประสบการณ์ของผม การ์ตูนเรื่องนี้เคยถูกทำเป็นนิยายมาก่อน และนิยายเรื่องนี้ก็โด่งดังไปทั่วเกาะญี่ปุ่นครับ ผมอ่านแล้วก็รู้สึกว่าไม่ผิดหวังจริงๆครับ เนื้อหามันกินใจชวนให้นึกถึงความหลังครับ และผมก็เชื่อว่าน่าจะตรงกับประสบการณ์ทางด้านความรักของท่านผู้อ่านหลายๆคน ผมเองไม่ได้มีเจตนามาโฆษณาการ์ตูนเล่มนี้นะครับ (แต่มีขายที่คิโนะคุนิยะภาคภาษาญี่ปุ่นและหวังว่าคงจะมีการแปลเป็นภาษาไทยเร็วนี้)แต่เพียงแค่อยากจะมาถ่ายทอดความประทับใจของผมที่มีต่อการ์ตูนเรื่องหนึ่ง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านผู้อ่านทุกท่านคงจะโชคดีทางด้านความรักนะครับ สำหรับท่านผู้อ่านที่ยังไม่ประสบความสำเร็จในด้านนี้ผมก็อยากจะให้มีความพยายามเหมือนไอ้หนุ่มรถไฟนี้ครับ โชคดีครับ